Tuesday, April 2, 2013

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศบริษัทเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงถูกกฎหมายเพียง 10 ราย จากผู้ขึ้นทะเบียนรวม 31 ราย ลั่นพบบริษัทอื่นเรียกร้องนอกเหนือประกาศ แจ้ง คน. -กรมทรัพย์สิน เอาผิดได้ทันทีเดินหน้าเอาผิดผู้แอบอ้างข่มขู่เรียกค่าลิขสิทธิ์เกมต่าง ประเทศ ส่งเรื่องให้ดีเอสไอสอบ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าหลังจากคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ หรือ กกร. ของกรมการค้าภายใน (คน.) ได้เปิดโอกาสให้ผู้จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงทุกรายแจ้งข้อมูลเพลงที่จะเก็บ ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดให้คน.ทราบภายในวันที่ 14 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้แจ้งข้อมูลเพียง 10 ราย ที่สามารถเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงได้ จากเดิมที่มีขึ้นทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา 31 ราย 10 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 2.บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด 3.บริษัท อาร์เอ็มเอส พับลิชชิ่ง จำกัด 4.บริษัทเอ็มพีซี มิวสิค จำกัด 5.บริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ เอส พี ซี จำกัด 6.บริษัท พาร์ทเนอร์ สมาย จำกัด 7.บริษัท ซี เอ็ม ซี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด 8.บริษัท วีพีพี เซ็นเตอร์ มิวสิค จำกัด 9.บริษัท บริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา จำกัด และ 10.ห้างหุ้นส่วนจำกัด จัดเก็บลิขสิทธิ์สุรพล "ถ้าบริษัทอื่นนอกจากนี้ไปเรียกเก็บค่า ลิขสิทธิ์ให้รีบแจ้ง คน. และกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยโทษของผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปเรียกเก็บลิขสิทธิ์ คือการแจ้งความเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการควบคุมตัว จะมีโทษฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการเรียกเก็บเงิน จะมีโทษกรรโชกทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายณัฐวุฒิกล่าว นาย ณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์เตรียมส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินการกับผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์ เกมส์ต่างประเทศ ที่มีพฤติกรรมข่มขู่ เรียกค่าเสียหาย และค่ายอมความจากผู้ประกอบการร้านเกมส์ในอัตราสูง โดยไม่มีเอกสารรับรองการมอบอำนาจให้เป็นผู้แทนจากบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ เกมส์ในต่างประเทศ ซึ่งผู้กระทำการเช่นนี้ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการ และอาจเข้าข่ายขู่กรรโชกทรัพย์ ซึ่งผิดกฎหมายอาญา ทั้งนี้ การส่งเรื่องให้ดีเอสไอ อาจนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายคดีฟอกเงินได้