tag:blogger.com,1999:blog-22733045092865548752024-03-12T15:59:09.515-07:00klab_enเล่าความโดย นาย klabAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comBlogger46125tag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-11359817288461938812014-05-28T07:23:00.003-07:002016-05-13T22:24:03.497-07:00Google เปลี่ยนโลโก้ใหม่ อยากรู้ไหม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCrEpQN2jz3BhqfDgZNWrOD3U2eVO_dxOegJnTNR_nSmaoczJLa2NqvvYNBiRNFkOXQJ7VNaCDh7vsxCvFhQa8lupS9Ze4iHkZO-DxZMmGFAfBh2HTdGctROZ75eZENHEYyL65QcWqE44e/s1600/10371735_675184492517824_3563100928329556912_n.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="221" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCrEpQN2jz3BhqfDgZNWrOD3U2eVO_dxOegJnTNR_nSmaoczJLa2NqvvYNBiRNFkOXQJ7VNaCDh7vsxCvFhQa8lupS9Ze4iHkZO-DxZMmGFAfBh2HTdGctROZ75eZENHEYyL65QcWqE44e/s1600/10371735_675184492517824_3563100928329556912_n.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
<span style="background-color: white; color: black; display: inline; float: none; font-family: "verdana" , sans-serif; font-size: 15px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 19.066667556762695px; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; word-spacing: 0px;">ตามรายงานข่าวที่มีการเปิดเผยออกมาระบุว่า โลโกของ Google ได้มีการปรับโฉมเล็กน้อย ซึ่งก็ต้องบอกว่า เล็กน้อยจริงๆ แต่ในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องบอกกล่าวกัน ถ้าไม่เหมือนกัน 100% ก็คือไม่เหมือน โดยรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงก็คือ “g” ตัวที่สองในโลโก้ได้ถูกขยับไปทางขวา 1 พิกเซล ในขณะที่ตัว “l” (สีเขียว) ได้ถูกเลื่อนลงมา 1 พิกเซล และไปทางขวาอีก 1 พิกเซล โถ…แล้วอย่างนี้ มองดูตาเปล่าจะเห็นได้จะใด อย่างไรก็ดี การขยับตำแหน่งเล็กน้อยให้กับตัวอักษรบางตัว Google บอกว่า มันทำให้โลโก้อ่านง่ายขึ้น และเข้าใจง่ายขึ้น แถมยังใช้เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดแจ้งถึงพลังของแบรนด์ เมื่อเวลาพบเห็นโลโก้นี้ในที่ต่างๆ เอ่อ…ขยับแค่หนึ่งพิกเซลเนี่ยนะ</span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6iVkPL7Qgfndup3S32-BqhpOXptJ2ygFpJYQj7hk2KHV0JEnPedXRAKFoMcK2kZF3s94X0_te1ct1yc7XBWX-yHbsyMvZNQ-xSxBcI84MF-GPUd2fwMPN_adQ1lfk8q5Aj_jJyKlxtudC/s1600/google-change-new-logo-2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="199" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6iVkPL7Qgfndup3S32-BqhpOXptJ2ygFpJYQj7hk2KHV0JEnPedXRAKFoMcK2kZF3s94X0_te1ct1yc7XBWX-yHbsyMvZNQ-xSxBcI84MF-GPUd2fwMPN_adQ1lfk8q5Aj_jJyKlxtudC/s1600/google-change-new-logo-2.jpg" width="320" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<b style="-webkit-text-stroke-width: 0px; background-color: white; color: black; font-family: verdana, sans-serif; font-size: 15px; font-style: normal; font-variant: normal; letter-spacing: normal; line-height: 19.066667556762695px; orphans: auto; text-align: -webkit-center; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: auto; word-spacing: 0px;">เมื่อเอาภาพมาซ้อนกัน ก็จะได้แบบนี้</b></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhucfoeE82TkumVFrkHoQGuCgm3WZdYUvkb9dnra_y7hh1s98bJtApjfAkBPXTUrcjt0Fc7VeroR1a6KCBDsXS2eTAgViY04zEAEQR0qFjWjlYxJbjrZXoNy_q_V-tx242eZR5P08AbpIAB/s1600/google-logo-before-after.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="140" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhucfoeE82TkumVFrkHoQGuCgm3WZdYUvkb9dnra_y7hh1s98bJtApjfAkBPXTUrcjt0Fc7VeroR1a6KCBDsXS2eTAgViY04zEAEQR0qFjWjlYxJbjrZXoNy_q_V-tx242eZR5P08AbpIAB/s1600/google-logo-before-after.gif" width="320" /></a></div>
ขอบคุณที่มา : http://ict.in.th<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-32556180068973001652014-04-22T08:44:00.001-07:002016-05-13T22:24:14.889-07:00วันนี้ขอพูดถึง ขั้นตอนการแจ้งความร้องทุกข์ในคดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEigSZPr22JS_pS-1-Kh8oIcesn-deYUEEtDK93akromNPTI4-f-GT_5M8-w59QVZS5XgjBvdXEvwGk19B_sOYEXhIqLwpLKgfmNnnxaZ0NLuIZ9tJKtaF2pSruNSm7rsa7hqZ5tJOW-weYP/s1600/ICT+Mark_Full+Colour.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEigSZPr22JS_pS-1-Kh8oIcesn-deYUEEtDK93akromNPTI4-f-GT_5M8-w59QVZS5XgjBvdXEvwGk19B_sOYEXhIqLwpLKgfmNnnxaZ0NLuIZ9tJKtaF2pSruNSm7rsa7hqZ5tJOW-weYP/s1600/ICT+Mark_Full+Colour.gif" /></a></div>
สืบเนื่องมาจากกรณี มีมือดีปล่อยสคริปต์ "<i><b>สุดยอดวิธีแอบดูกล้องเว็บแคมชาวบ้าน บน facebook</b></i>" ซึ่งทำให้เกิดความรำคาญแก่ผู้ใช้ facebook ซึ่งกรณีนี้ถือได้ว่าถูกละเมิดให้ได้รับความเสียหายทางสื่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งบางคนหรือหลายๆคนอาจจะมองเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไร ซึ่งหากเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้บ้างก็น่าจะเกิดผลดี และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่กระทำการแบบนี้ไม่ได้รับโทษตามสมควรก็อันเนื่องมาจากว่าไม่รู้จะไปดำเนินคดี หรือแจ้งเบาะแสเหล่านี้ได้ที่ไหนและเมื่อเจอปัญหาเหล่านี้ก็ปล่อยๆไป ทำให้ผู้ที่กระทำการเหล่านี้เกิดความย่ามใจ มาวันนี้จึงอยากจะมาแนะนำ <br />
<br />
<i>ขั้นตอนการแจ้งความร้องทุกข์ในคดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี</i><br />
<i><br /></i>
<i>ข้อแนะนำกรณีถูกกระทำผิดหรือถูกละเมิดให้ได้รับความเสียหายทางสื่ออินเตอร์เน็ต</i><br />
<i>1. เมื่อพบการกระทำความผิดหรือถูกละเมิดในสื่ออินเตอร์เน็ต ควรดำเนินการเบื้องต้น ดังนี้</i><br />
<i>1.1 ทำการบันทึกข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏไว้ทั้งหมด เช่น หน้าเว็ปเพจ ,ข้อความหรือภาพถ่ายที่ก่อให้เกิดความเสียหาย</i><br />
<i>1.2
พิมพ์ข้อมูลหน้าเว็ปไซด์ที่เกิดเหตุหรือเกี่ยวข้องออกมาเป็นเอกสาร
เพื่อป้องกันไม่ให้พยานหลักฐานสูญหาย หรือถูกทำลาย
และลงลายมือชื่อรับรองเอกสารนั้น</i><br />
<i>1.3 การสั่งพิมพ์เอกสารหน้าเว็ปเพจ
,ข้อความหรือภาพถ่ายต่างๆ ในเว็ปไซด์ที่พบการกระทำผิด
ให้ปรากฏที่ตั้งของเว็ปไซด์ หรือ URL ของเว็ปไซด์นั้นด้วย
และหรือปรากฎวันเวลาบนเว็บไซต์หรือขณะบันทึกข้อมูลหลักฐานนั้นด้วย</i><br />
<i>2.
หากประสงค์แจ้งความร้องทุกข์
ให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายสามารถแจ้งต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท้องที่
เกิดเหตุ หรือที่พบการกระทำความผิด หลักฐานที่ควรนำไปมอบให้พนักงานสอบสวน
ได้แก่หลักฐานตามข้อ 1.1 - 1.3</i><br />
<i>3. หากผู้เสียหาย
หรือพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความ ต้องการตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์
ก็สามารถประสานเพื่อส่งข้อมูล หลักฐานต่างๆ ตามข้อ 1. มายัง บก.ปอท.
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น กระทรวง ไอซีที เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้
ต่อไป</i><br />
<i>4. กรณีจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันความเสียหาย เช่น
ต้องทำการปิดกั้นเว็ปไซด์ หรือระงับการทำธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์
ให้พนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความ หรือผู้เสียหาย ประสานงานมายัง บก.ปอท.
หรือ กระทรวงไอซีที หรือธนาคาร
หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อดำเนินการเบื้องต้นในการบรรเทาความเสีย
หาย ต่อไป</i><br />
<br />
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคาร B ชั้น 4 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. 10210 โทร 02-1422555-60<br />
<div class="quoteheader">
<br /></div>
<div class="quote">
<a href="https://www.facebook.com/jahooktcsd" rel="nofollow" target="_blank">https://www.facebook.com/jahooktcsd</a><br />
<br />
ขอบคุณ บทความจาก http://www.thaiseoboard.com โดย ยูสเซอร์ : <b>unaii</b></div>
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-35764599487988995162014-04-19T20:43:00.001-07:002016-05-13T22:24:23.706-07:00เตือนภัย และ(วิธีแก้) !!สุดยอดวิธีแอบดูกล้องเว็บแคมชาวบ้าน บน facebook อย่าหลงเชื่อทำตามโดยเด็ดขาด สวัสดีครับวันนี้ขอพูดถึงเรื่องที่กำลังเป็นปัญหากับผู้ใช้เฟสบุ๊คนั่นก็คือ <i><b>"สุดยอดวิธีแอบดูกล้องเว็บแคมชาวบ้านตาม</b></i>" ส<span style="color: red;"><span style="color: black;">คริปต์แฮคกล้องชาวบ้าน</span> </span>ที่กระจายแพร่หลายยอยู่บน facebook ทำให้ผู้ใช้ facebook เจอรูปนี้บน news feed หรือ ถูก tag ภาพนี้จากเพื่อนๆ ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญสำหรับคนใช้ facebook <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiqV39DxMdGTiOhuswCjcvmrLph3YfsUTbLAZ6hENP_1jtB0qMZOzQo71RN_JOaI-fedcnnXAJ1nRuLGqp5XP0VhIbKR9hHUs2qC7ddyFqdrScgw2sR2lO6n7aDVLNtJrOy5YUWMyfiVWD9/s1600/wall-facebook-scam-look-webcam.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="286" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiqV39DxMdGTiOhuswCjcvmrLph3YfsUTbLAZ6hENP_1jtB0qMZOzQo71RN_JOaI-fedcnnXAJ1nRuLGqp5XP0VhIbKR9hHUs2qC7ddyFqdrScgw2sR2lO6n7aDVLNtJrOy5YUWMyfiVWD9/s1600/wall-facebook-scam-look-webcam.png" width="320" /> </a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
ซึ่งมันเป็นการขโมย Token ของผู้ใช้ Facebook และ Token มันสำคัญอย่างไร ลองดูจาก วิดีโอนี้ประกอบนะครับ ซึ่งท้ายวิดีโอจะพูดถึง Token</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="//www.youtube.com/embed/gDrR23bV66c" width="420"></iframe><br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
ทำไมต้องมีการขโมย Token ก็เนื่องมาจาก เพื่อหวังปั่นยอดกด Like ทำเพจขาย Like ด้วย ซึ่ง Token จะบ่งบอกถึงข้อมูลต่างๆบน facebook เรานั่นหมายความว่าเมื่อเขาได้ Token ไปเขาก็สามารถจะนำ account facebook ไปทำอะไรก็ได้ สำหรับเรื่องนี้ก็คือการขโมย account facebook เราไปกดไลค์ ให้คนอื่น หรือใครก็ได้ที่มาจ้างเขาทำ ซึ่งจะเห็นว่าทำไมหลายครั้งมี เพจที่เราไม่ได้ไปกด like มาโผล่บน facebook เราก็อาจจะเนื่องมาจากการถูกขโมย Token นี้ไปใช้ก็เป็นได้ และก็อยากให้ระวังหน่อยครับเพราะกลุ่มคนที่ทำธุรกิจนี้มีเยอะ </div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
สำหรับวิธีแก้ไขนะครับ ต้องขอบคุณ <u><b>puihardcore thaiseoboard.com </b></u></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
1.) เข้าไปที่ Account > Privacy Setting</div>
2.) เข้าไปที่ Apps and Websites คลิก Edit your settings...<br />
3.) ในช่อง Apps you use คลิก Edit Settings<br />
4.) Apps ที่เกิดขึ้นล่าสุด ถ้าเห็นว่ามันแปลกปลอมให้คลิก x เพื่อกดลบ<br />
5.) เปลี่ยน Password ใหม่ โดยเข้าไปที่ Account > Account Setting ในส่วน Password ให้กด change แล้วเปลี่ยนพาสเวิร์ดใหม่<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<b>หมายเหตุการเปลี่ยน Password จะทำให้ Token เปลี่ยนซึ่งจะทำให้ Token ที่ถูกขโมยไปใช้งานไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเปลี่ยน Password นะครับ </b></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
สถานการณ์ปัจจุบันกำลังไล่หาตัวผู้ปล่อยสคริปต์นี้ออกมาครับ ซึ่งก็มีการโยนกันไป โยนกันมา ยังหาผู้กระทำจริงๆไม่ได้ครับ แต่คาดว่าไม่นานนี้จะได้ตัวผู้ปล่อยสคริปต์นี้ออกมาครับ</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<span style="background-color: white; color: #333333; font-family: "verdana" , "geneva" , sans-serif; font-size: 11px; line-height: 17.600000381469727px;">@ Klab_en : เล่าความ </span></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-27384426043499674882014-04-12T08:10:00.001-07:002016-05-13T22:27:22.188-07:00ผลกระทบต่อวิศวกรไทย จากการเปิดประตูการค้าเสรีของประชาคมอาเซียน ในปี 2558 จะมีอะไรบ้าง<b> </b><b></b>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFUaavZYqfK8VCKs7J5-nCS9mN68YE3Juh7hSfqi1_6DsSQEnP0ON_4U-pEGln1QW7xsFwiggqSVcaIVo8SpbfADk_IWt0cWgya7ooZ39l62wAybWGLDJH_f4WSojEGRvEOtpL7yEO79-K/s1600/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFUaavZYqfK8VCKs7J5-nCS9mN68YE3Juh7hSfqi1_6DsSQEnP0ON_4U-pEGln1QW7xsFwiggqSVcaIVo8SpbfADk_IWt0cWgya7ooZ39l62wAybWGLDJH_f4WSojEGRvEOtpL7yEO79-K/s1600/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.gif" /></a></div>
(ก) การศึกษาในภาพใหญ่ของโลก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ต้องไม่ให้การเปลี่ยนแปลงนี้มากระชากลากเราไปอย่างทุลักทุเล
เราต้องเตรียมความพร้อมทันที ตลอดเวลา โดยเฉพาะบุคลากรต้องตามให้ทัน
และยืดหยุ่นปรับตัวให้รับสถานการณ์ได้<br />
(ข) ภาษาอังกฤษ จะเป็นภาษากลางของ ASEAN บุคลากร และนักศึกษา ต้องเพิ่มทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ ให้สามารถสื่อสารได้<br />
(ค) ปรับปรุงความเข้าใจทางประวัติศาสตร์
เพื่อลดข้อขัดแย้งในภูมิภาคอาเซียน (Conflict Management)
จึงต้องคำนึงถึงการสร้างบัณฑิตให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง ASEAN
ให้มากขึ้น<br />
(ง) สร้างบัณฑิตให้สามารถแข่งขันได้ใน ASEAN เพิ่มโอกาสในการทำงาน
ไม่เช่นนั้น จะถูกแย่งงานเพราะเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงาน/ บริการอย่างเสรี
คณะกรรมการวิชาชีพ สภาวิชาชีพ ต้องเตรียมการรองรับผลกระทบนี้อย่างเร่งด่วน<br />
(จ) โอกาสในการเป็น Education Hub
โดยอาศัยความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ของประเทศไทย
แต่ต้องเน้นในเรื่องของคุณภาพการศึกษาเป็นตัวนำ<br />
(ฉ) เราต้องการเครื่องมือในการ Transform คน การเรียนแบบ PBL หรือ Project
Based Learning น่าจะได้มีการวิจัยอย่างจริงจัง และนำมาปรับใช้ ห้องเรียน
ไม่ใช่แค่ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆอีกต่อไป ต้องเพิ่มการเรียนจากชีวิตจริง
ลงมือทำเป็นทีม
อยู่คนละประเทศก็ทำร่วมกันได้ด้วยไม่มีข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร
ประเด็นนี้ อาจารย์จะสอนได้ยากขึ้น
แต่เป็นผู้ที่ช่วยให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ แสดงว่า
อาจารย์ต้องมีความพร้อมมากกว่าเดิม และเก่งจริงๆ<br />
ช) บริษัทข้ามชาติ จะเป็นตัวเร่งในการเคลื่ยนย้ายแรงงาน
เนื่องจากต้องตอบสนองความต้องการของตัวเองและมีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องคูณ
ภาพของแรงงานและความสามารถเฉพาะทางที่ต้องการ
(วิศวกรต่างชาติจากประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า และเขมร
มีแนวโน้มจะย้ายมายังไทย?)<br />
<b>5. การเตรียมพร้อมของวิศวกรไทย</b><b>:</b> ในบทนี้ ผู้เขียนขอเสนอ <b>แนวทางการแก้ไข</b> <b>ผลกระทบของประชาคมอาเซียน </b><b>2558 ต่อวิศวกรไทย</b> ไว้เป็นดังนี้:<br />
<b><i>ภาษาอังกฤษ</i></b><b><i>:</i></b>
ภาษาอังกฤษของวิศวกรไทยต้องไม่เพียงแค่อ่านออก เขียนได้
แต่ยังต้องสามารถสนทนาโต้ตอบได้อย่างดี
และถูกต้องกับคนทุกชาติที่มีภาษาแม่ต่างกัน<br />
<b><i>มาตรฐานของวิศวกรไทย</i></b><b><i>:</i></b>
สภาวิศวกรไทยต้องจัดทำมาตรฐานวิศวกรให้ครอบคลุมทุกสาขาเทคโนโลยี
วิศวกรทุกคนที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยรวมทั้งวิศวกรไทยต้องขึ้นทะเบียนกับ
สภาวิศวกร และสภาวิศวกรต้องจัดการ/ควบคุมวิศวกรให้มีคุณภาพ
และจริยธรรมตามมาตรฐาน<i>(ผมเข้าใจว่า ณ
ตอนนี้บริษัทต่างๆรับพนักงานโดยดูจาก
ปริญญาเพียงอย่างเดียวว่าจบวิศวกรหรือไม่ ยกเว้นเฉพาะบางตำแหน่งที่ต้องการ
กว. เช่นพวกควบคุม ออกแบบ เท่านั้น น่าจะไม่ถึงหนึ่งในสามด้วยซ้ำ
สภาวิศวกรยังไปไม่ถึงขั้นที่ควบคุมการทำงานของวิศวกรไทยได้ทั้งหมดโดยเฉพาะ
ในสาขาไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ที่มีความหลากหลายของสายงาน</i><i>)</i><br />
<b><i>ความร่วมมือสังคมวิศวกร</i></b><b><i>:</i></b> สถาบันศึกษา สมาคม/
องค์กรวิชาชีพวิศวกรรม ต้องร่วมมือกัน ผลิต บ่มเพาะ ขัดเกลา
เพิ่มความรู้ความชำนาญ ให้วิศวกรไทยเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ และจริยธรรมที่ดี
ตลอดเวลาที่อยู่ในวิชาชีพวิศกรรรม<br />
<b><i>ค่าแรงขั้นต่ำ</i></b><b><i>:</i></b>
รัฐบาลจะต้องปรับให้ค่าแรงขั้นต่ำมีอัตราเท่ากันทั้งประเทศ เพื่อ
ให้จูงใจให้วิศวกร และแรงงานอื่นๆทำงานในถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองให้มากขึ้น
ลดการย้ายเข้าไปทำงานตามเมืองใหญ่หรือกรุงเทพฯ
และลดการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ หากวิศวกร
และแรงงานภาคอื่นๆมีงานที่ดีทำในถิ่นฐานบ้านเกิดจะเท่ากับเป็นการพัฒนาชนบท
ให้เจริญทัดเทียมกันทั้งประเทศ เป็นหนทางหนึ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาระบบ
Logistics ให้มีประสิทธิภาพ<b> </b>รัฐและท้องถิ่นต้องมีความชัดเจนกับการ
ใช้พิ้นที่อุตสาหกรรม เกษตร ที่อยู่อาศัยหรือท่องเที่ยว
(มากกว่าแค่กำหนดZone
ส่งเสริมการลงทุนคลุมเป็นภาคหรือจังหวัดอย่างที่เป็นอยู่
ตอนนี้เราจูงใจวิศวกรหรือพนักงานวิชาชีพอื่นไปทำงานต่างจังหวัดโดยมีการจ่าย
ค่าเช่าบ้านหรือเบื้ยเลี้ยงเพิ่มสำหรับคนนอกพื้นที่
แต่ไม่ค่อยได้มองคนในพื้นที่เท่าไหร่นัก)<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-70300805395517568732014-04-12T07:03:00.001-07:002016-05-13T22:27:30.142-07:00พวกเราๆ จะมีส่วนช่วยสร้างประชาคมอาเซียนได้อย่างไรบ้าง<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoUUVnV0ABY5MfS-5yiWxA0qeM-yGQvXVCjByyH4QavyzR2p92kLtfTkgCIWUmfvxcvFVgf4l8rHflcUuMUh3k46nMMRCvz2vMt5UBze3os7Zr6R5pAwZDP3uLfQbqiVgxL9uhGdk6JYFY/s1600/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="239" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoUUVnV0ABY5MfS-5yiWxA0qeM-yGQvXVCjByyH4QavyzR2p92kLtfTkgCIWUmfvxcvFVgf4l8rHflcUuMUh3k46nMMRCvz2vMt5UBze3os7Zr6R5pAwZDP3uLfQbqiVgxL9uhGdk6JYFY/s1600/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.jpg" width="320" /></a></div>
<div>
<br /></div>
<b><i>ประชาคมอาเซียน</i></b> เราสามารถมีส่วนช่วยสร้าง <b><i>ประชาคมอาเซียน</i></b> ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ได้มากมาย อาทิ การแสดงความคิดเห็นไปยังกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศในฐานะที่เป็นสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดอบรมสัมมนา หรือช่องทางการแสดงความคิดเห็นอื่นๆ ที่มีการจัดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรม โครงการแลกเปลี่ยน และโครงการต่างๆ ของอาเซียนซึ่งมีอยู่มากมาย<span class="fullpost">
</span><br />
<div>
</div>
<div>
ที่สำคัญการทำความรู้จักและเข้าใจประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียนและมีอัธยาศัยไม่ตรีที่ดีต่อมิตรที่มาจากประเทศเหล่านี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างความรู้สึกร่วมของการเป็น<b><i> ประชาคมอาเซียน </i></b>ได้เช่นกัน</div>
<div>
<br /></div>
<div>
<span style="background-color: white; color: #333333; font-family: "verdana" , "geneva" , sans-serif; font-size: 11px; line-height: 17.600000381469727px;">@ Klab_en : เล่าความ </span></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-9546426819780932332014-04-12T05:33:00.004-07:002016-05-13T22:27:38.722-07:00ในประเทศไทยมีสมาคมอาเซียนหรือไม่ ใครรู้บ้าง<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEidKYFIKb3JQxFCFmFwmQVzy1dj9lqgZBtHR58Jwt9vp7n8V2K9C4PRCFvJRIaDSVqHM2QNR5Y6f_DIH5ll7mRqN0db14Kas5rnJyfMXNVeQt-yv2lF5gEbkzqLqGEBaZXpqj8y3g0jAS3V/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="246" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEidKYFIKb3JQxFCFmFwmQVzy1dj9lqgZBtHR58Jwt9vp7n8V2K9C4PRCFvJRIaDSVqHM2QNR5Y6f_DIH5ll7mRqN0db14Kas5rnJyfMXNVeQt-yv2lF5gEbkzqLqGEBaZXpqj8y3g0jAS3V/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.jpg" width="320" /></a></div>
<div>
<br /></div>
<i><b>สมาคมอาเซียน</b></i> - ประเทศไทย จัดตั้งขึ้นในปี 2551 เพื่อเป็นช่องทางสำหรับประชาชนที่ต้องการเข้ามามีมีส่วนร่วมกับการสร้างประชาคมอาเซียน สมาคมอาเซียนมีเป้าหมายที่จะเผยแพร่ความร่วมมือของอาเซียนในหมู่ประชาชน เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจของประชาชนในการมุ่งไปสู่การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนผ่านการทำกิจกรรมและการมีส่วนร่วมกับอาเซียนต่อประชาชนทั่วประเทศ เป็นช่องทางหนึ่งที่จะรับฟังความเห็นจากประชาชน และทำให้อาเซียนสามารถเข้าถึงประชาชนพร้อมกับสร้างความตระหนักรู้ว่าพวกเขาล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งของ<b><i>ประชาคมอาเซียน </i></b>ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะสมัครเป็นสมาชิกสามารถติดต่อกับสมาคมอาเซียนแห่งประเทศไทย ได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ โทรศัพท์ 02-6435000 ต่อ 4424<span class="fullpost">
</span><br />
<div>
<br /></div>
<div>
<span style="background-color: white; color: #333333; font-family: "verdana" , "geneva" , sans-serif; font-size: 11px; line-height: 17.600000381469727px;">@ Klab_en : เล่าความ </span></div>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-13361544950939204372014-04-12T05:09:00.002-07:002016-05-13T22:27:46.366-07:00เราสามารถเรียนรู้เรื่องอาเซียนเพิ่มเติมได้จากที่ไหนบ้าง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiVN9E9I46TFarTDEutduH8ltIWSGs08JloIQcST291NPjfClFA8XNumpdZvaZc0ZnA6hL843PSegYuYfaSx5sLHe7CRPCd4w8wbbQVRbqFhU7cdPgCulGMObHm2r_U3TGYDPWJ6lqRh56C/s1600/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="183" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiVN9E9I46TFarTDEutduH8ltIWSGs08JloIQcST291NPjfClFA8XNumpdZvaZc0ZnA6hL843PSegYuYfaSx5sLHe7CRPCd4w8wbbQVRbqFhU7cdPgCulGMObHm2r_U3TGYDPWJ6lqRh56C/s1600/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87.jpg" width="320" /></a></div>
วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้เรื่องราว <i><b>อาเซียน</b></i> คือ เว็บไซต์สำนักเลขาธิการอาเซียน www.aseansec.org นอกจากนี้ยังสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ สามรถดูรายละเอียดได้ที่<br />
www.mfa.go.th และ www.14thaseansummit.org หรือแม้จะเป็นที่นี่ <a href="http://klab-en.blogspot.com/">http://klab-en.blogspot.com</a> ซึ่งเราก็จะสรรหาบทความ ความรู้เกี่ยวกับ อาเซียนมาให้ได้ศึกษากันครับ <br />
<br />
<span style="background-color: white; color: #333333; font-family: "verdana" , "geneva" , sans-serif; font-size: 11px; line-height: 17.600000381469727px;">@ Klab_en : เล่าความ </span><br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-51071605455154820002014-04-10T22:27:00.000-07:002016-05-13T22:27:53.069-07:00ท่าทีของอาเซียนต่อประเทศพม่า<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<b><i><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1jUbuGaHDoUym190EkpPK2uaKMKH74LpZtWAshbbTozwPx3W6ktEeOQrY9_84D3Lrcrltnzls_ZVORR52lUZrTBKeU4J_afoJPSbHK1X0kkSJDrNIH6-CrfVRr24-iSfsVe1nB0V5KD1V/s1600/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="180" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh1jUbuGaHDoUym190EkpPK2uaKMKH74LpZtWAshbbTozwPx3W6ktEeOQrY9_84D3Lrcrltnzls_ZVORR52lUZrTBKeU4J_afoJPSbHK1X0kkSJDrNIH6-CrfVRr24-iSfsVe1nB0V5KD1V/s1600/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2.gif" width="320" /></a></i></b></div>
<br />
<b><i> อาเซียน</i></b> มีส่วนผลักดันให้พม่าเร่งรัดกระบวนการปรองดองในชาติ และการเจรจาระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำประเทศกลับสู่แนวทางประชาธิปไตย พร้อใกับเรียกร้องให้พม่าปล่อยนักโทษการเมือง รวมถึงนาง ออง ซาน ซูจี อย่างไรก็ดี อาเซียนไม่เห็นด้วยต่อการคว่ำบาตรและใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในพม่า เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่ไม่ได้ผลและไร้ประโยชน์ ทั้งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ <br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-80444974743627947412014-04-10T22:06:00.001-07:002016-05-13T22:27:59.485-07:00ท่าทีอาเซียนในเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างไร <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhnpBvZ2rPsHEU1C-_nZZeVRpYvv_1Y0MmFaW4fF45dzfrevkdwH8_tmVhJ9nhZaK6ZKtQkSpy-rPQXbe85ZMn_SEOugFjF5ztUaJmbStric5p4USc7Gk0UFCnFWGD1-U_MOWGV5Trhyphenhyphen1B9/s1600/ASEAN.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhnpBvZ2rPsHEU1C-_nZZeVRpYvv_1Y0MmFaW4fF45dzfrevkdwH8_tmVhJ9nhZaK6ZKtQkSpy-rPQXbe85ZMn_SEOugFjF5ztUaJmbStric5p4USc7Gk0UFCnFWGD1-U_MOWGV5Trhyphenhyphen1B9/s1600/ASEAN.jpg" /></a></div>
<i><b>อาเซียน</b></i> ให้ความสำคัญและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด โดยมีการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องกลไกสิทธิมนุษยชนของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญในกฎบัตรอาเซียนได้มีข้อบทในส่วนที่เกี่ยวกับเป้าหมายและหลักการของความร่วมมือระหว่างกันที่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ทั้งยังระบุให้อาเซียนจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนของอาเซียน เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนอาเซียนอีกด้วย<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ <br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-69007320383704501902014-04-08T07:26:00.000-07:002016-05-13T22:28:07.343-07:00การไม่แทรกแซงกิจการภายใน (Principle of Non-interence) คืออะไร <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEisaPelyOj24Q5kFT_cuWwgi8EF5plzl6ynybK-Mzgytr1c0RCkBcg-agF2t9Qz7BNjT7kB5O_eVmo0rrU0QcE3uX1_cjmVhFIxTR0XJcl9UKbfKLc6efenjrTs1cmHXwNOGICt8k1TVFI4/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="124" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEisaPelyOj24Q5kFT_cuWwgi8EF5plzl6ynybK-Mzgytr1c0RCkBcg-agF2t9Qz7BNjT7kB5O_eVmo0rrU0QcE3uX1_cjmVhFIxTR0XJcl9UKbfKLc6efenjrTs1cmHXwNOGICt8k1TVFI4/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99.jpg" width="320" /></a></div>
การไม่แทรกแซงกิจการภายใน (Principle of Non-interence)คืออะไร หลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของอาเซียนที่ได้สะท้อนอย่างชัดเจนในกฎบัตรอาเซียน หลักการนี้ทำให้สมาชิกอาเซียนมีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งระหว่างกัน เนื่องจากเห็นพ้องร่วมกันที่จะไม่ต้องการให้ผู้อื่นเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของตน รวมทั้งแนวคิดที่ว่าปัญหาภายในประเทศไม่สามารถแก้ไขโดยมาตรการลงโทษจากภายนอก แต่ต้องได้รับการจัดการบริหารโดยปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการและแนวความคิดของประเทศนอกภูมิภาคโดยเฉพาะในประเด็นการเมืองภายในพม่า<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ <br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-13478728770758968022014-04-08T06:29:00.000-07:002016-05-13T22:28:14.782-07:00อาเซียนมาการรับสมาชิกประเทศใหม่เรื่อยๆ <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEikixC9nDZLJa04U-y7YmQZDCvFXDzEGaq9Qx27dVZ4jEazF7Ok_LWzfD9VADRFwQJYr5ramfoH4lkftGYWuBpfueWwmx7wZu05P6pa1MToPDBURi5ETKjg81w_c9gjpZfZrbcvPWSAc3Nu/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88+%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="132" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEikixC9nDZLJa04U-y7YmQZDCvFXDzEGaq9Qx27dVZ4jEazF7Ok_LWzfD9VADRFwQJYr5ramfoH4lkftGYWuBpfueWwmx7wZu05P6pa1MToPDBURi5ETKjg81w_c9gjpZfZrbcvPWSAc3Nu/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88+%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.jpg" width="320" /></a></div>
หลังการจัดตั้ง <u><b><i>อาเซียน</i></b></u> เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 <u><i><b>อาเซียน</b></i></u> เปิดรับสมาชิกใหม่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะ โดย<br />
บรูไนดารุสซาลาม เข้าเป็นสมาชิก <u><i><b>อาเซียน</b></i></u> เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2527 <u><b><i></i></b></u><br />
เวียดนาม เข้าเป็นสมาชิก <u><i><b>อาเซียน</b></i></u> เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2538<br />
ลาวและพม่า เข้าเป็นสมาชิก <u><i><b>อาเซียน</b></i></u> เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2540<br />
กัมพูชา เข้าเป็นสมาชิก <u><i><b>อาเซียน</b></i></u> เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542<br />
การเข้าร่วมของประเทศสมาชิกใหม่เหล่านี้สอดคล้องกับปฏิญญาอาเซียนซึ่งระบุว่า อาเซียนพร้อมรับทุกประเทศที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พร้อมจะรับเป้าหมาย หลักการและวัตถุประสงค์ขององค์กรสมาชิก<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ <br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-24724149566767860612014-04-08T06:10:00.003-07:002016-05-13T22:28:21.783-07:00มาดูกันครับ ทำไมต้องตั้งอาเซียน <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiqyn-VgLpo2NLHQZjnTEaUv1qm3fDaCkva6HvB41vqNQ9bYzIFuVyuDvYhawDoFV197xf8pDySIkRYmE2xlNlBGdkT8s_LqJFOfeefpI4rvDz0p85n4qz1DZ_NSAu7bam_wEl5hcHviuLz/s1600/%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="205" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiqyn-VgLpo2NLHQZjnTEaUv1qm3fDaCkva6HvB41vqNQ9bYzIFuVyuDvYhawDoFV197xf8pDySIkRYmE2xlNlBGdkT8s_LqJFOfeefpI4rvDz0p85n4qz1DZ_NSAu7bam_wEl5hcHviuLz/s1600/%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1.jpg" width="320" /></a></div>
ปรเทศผู้ร่วมก่อตั้งเห็นว่าการก่อตั้งองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาคน่าจะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดความขัดแย้ง และส่งเสริมการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ <i>ปฏิญญากรุงเทพฯ </i>กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์สำหรับอาเซียน 7 ประการ ได้แก่<br />
1. ส่งเสริมให้ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมและวัฒนธรรม<br />
2. ส่งเสริมการมีเสถียรภาพ สันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค<br />
3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ และด้านการบริหาร<br />
4. ส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกันในการฝึกอบรมและการวิจัย<br />
5. ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม การค้า การคมนาคม การสื่อสาร และการปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิต<br />
6. ส่งเสริมการมีหลักสูตรการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้<br />
7. ร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาคและองค์กรระหว่างประเทศ<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ <br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-26604699207279364772014-04-08T05:53:00.000-07:002016-05-13T22:28:28.006-07:00อาเซียนก่อตั้งเมื่อไหร่ใครรู้บ้าง มีประเทศไหนร่วมก่อตั้งบ้าง <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhJ3LaJLeJYto6BLWl07izpBu1I9MD_AeJbw-A6hk7VVRFT1ZndzSO5kyds_22-pVG5XMGgJXoF5Z44ZQm3VaeRTxCwLcISdT5XPh4XrKAjzubEszXFp_-fqrEg3I8WzQ3eiEg1aQE0huy4/s1600/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhJ3LaJLeJYto6BLWl07izpBu1I9MD_AeJbw-A6hk7VVRFT1ZndzSO5kyds_22-pVG5XMGgJXoF5Z44ZQm3VaeRTxCwLcISdT5XPh4XrKAjzubEszXFp_-fqrEg3I8WzQ3eiEg1aQE0huy4/s1600/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg" width="207" /></a></div>
อาเซียนตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 หลังการลงนามปฏิญญาสมาคม ประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Declaration of ASEAN concord) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า ปฏิญญากรุงเทพฯ (Bankok Declaration) โดยรัฐมนตรีจาก 5 ประเทศ ได้แก่ <i>นายอาดัม มาลิก</i> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากอินโดนีเซีย <i>ตุน อับดุล ราซัก บิน ฮุสเซน</i> รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติมาเลเซีย <i>นายนาชิโซ รามอส</i> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ <i>นายเอส ราชารัตนัม</i> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างแระเทศสิงคโปร์ และ<i>พันเอก (พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์</i> ระฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากไทย<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-43993525085575271122014-02-05T07:47:00.002-08:002016-05-13T22:24:50.982-07:00ใครเจอปัญหาก็อปข้อมูลหน้าเว็บไม่ได้บ้าง<span style="font-size: small;"> สวัสดียามดึก วันนี้ก็มีปัญหาใหม่อีกแล้วซึ่งอาจจะมีคนรู้หรือไม่รู้บ้าง สำหรับการก็อปข้อมูลหน้าเว็บไซต์ไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีคนถามมา นั่นคือไม่สามารถก็อปข้อมูลจากเว็บไซต์ลง Office และผมก็ได้ค้นหาข้อมูลต่างๆนาๆ จะทำอย่างไรให้ก็อปข้อมูลได้ จนได้คำตอบและวิธีการที่ง่ายแสนง่าย เหมือนนั่งกระพริบตากันเลยทีเดียว เรามาดูวิธีการกันเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา</span><br />
<span style="font-size: small;"><br /></span>
<span style="font-family: "tahoma"; font-size: small;">หากใช้ IE เป็น Browser<br /><br />ก็ไปที่ Tools ==> Internet Options ==> Security ==> Internet</span><br />
<span style="font-size: small;"><br /></span>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<span style="font-size: small;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhzGEU7OwO4zJ7ZnAkKGCftz5VnxJvZJoCOLXtS3rUyfs1IRCXKirVQYPSeKCw2bciK2xqgsspbhCnD-a2MUeXp9yyROG62Ga1FrI92FVKZCnMvtUKgVeKhG7LJwXs_gEU1DSpL6X_H6qVQ/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="452" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhzGEU7OwO4zJ7ZnAkKGCftz5VnxJvZJoCOLXtS3rUyfs1IRCXKirVQYPSeKCw2bciK2xqgsspbhCnD-a2MUeXp9yyROG62Ga1FrI92FVKZCnMvtUKgVeKhG7LJwXs_gEU1DSpL6X_H6qVQ/s1600/1.jpg" width="640" /></a></span></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<span style="font-size: small;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiWgKiBayUSH_N1fTaJ476fP4tVIhP8J6ncovgJTZB8Nhpp0Q7ikXBHu-X4OL6LhngNN0yq3WS2Sf97Qkpt8psgBwo9Tj0uFtiQOYWKOzzjSbOdXXvUq110p8hpKYrIC9aP8o-sPaRqkyAz/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="412" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiWgKiBayUSH_N1fTaJ476fP4tVIhP8J6ncovgJTZB8Nhpp0Q7ikXBHu-X4OL6LhngNN0yq3WS2Sf97Qkpt8psgBwo9Tj0uFtiQOYWKOzzjSbOdXXvUq110p8hpKYrIC9aP8o-sPaRqkyAz/s1600/2.jpg" width="640" /></a></span></div>
<span style="font-family: "tahoma"; font-size: small;"><br /> </span><br />
<span style="font-family: "tahoma"; font-size: small;">คลิกที่ปุ่ม Custom Level แล้วก็หา Active scripting แล้วติ๊กตรง Disable</span><br />
<span style="font-family: "tahoma"; font-size: small;"><br /></span>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<span style="font-size: small;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgnwh3BQJynHLKcU1SfDem2UoXnZIBHP1r4_CXIOkKtYw6o8bmmNQCeRSEA1ObmN_APNqJVqBPc8w52uSDxb-9uONH4DDd5mZL5PLh5FGGdWgAbH-Ub3UwraSfeOXkwDKkjaBiT8VgGom_9/s1600/3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="408" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgnwh3BQJynHLKcU1SfDem2UoXnZIBHP1r4_CXIOkKtYw6o8bmmNQCeRSEA1ObmN_APNqJVqBPc8w52uSDxb-9uONH4DDd5mZL5PLh5FGGdWgAbH-Ub3UwraSfeOXkwDKkjaBiT8VgGom_9/s1600/3.jpg" width="640" /><span style="color: black;"> </span></a></span></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<span style="font-family: "tahoma"; font-size: small;">หากใช้ Mozilla Firefox เป็น Browser<br /><br />ไปที่ Tools ==> Options ==> Content<br />แล้วไปติ๊กเอา Enable JavaScript ออก ก็เรียบร้อยแล้วครับ</span></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<span style="font-size: small;"><br /></span></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<span style="font-family: "tahoma"; font-size: small;"> สำหรับบทความนี้ไม่ได้แนะนำให้ไปก็อปบทความแล้วไปทำการละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ เป็นเพียงการแนะนำวิธีการก็อปข้อมูลเพื่อเป็นการศึกษา อาทิเช่น นักเรียน นักศึกษา หรือแม้กระทั่ง คุณครูเองก็ตาม ที่ต้องการข้อมูลไปทำรายงาน หรือเพื่อข้อมูลสำหรับสอนเด็กๆ ยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ไม่สามารถก็อปข้อมูลได้ www.myfirstbrain.com </span><span style="font-size: small;">แต่บางครั้งก็อาจจะมีนักเรียน นักศึกษาต้องการข้อมูลไปทำรายงาน</span></div>
<span style="font-size: small;"><br />
<span style="font-family: "tahoma";"> สำหรับที่มาของบทความนี้ ก็เนื่องมาจากมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมรู้จักได้สอบถามมา ซึ่งท่านต้องการที่จะนำข้อมูลจากเว็บไซต์ </span><span style="font-family: "tahoma";"><span style="font-family: "tahoma";">www.myfirstbrain.com </span>ไปจัดเตรียมทำสื่อการเรียนการสอนและได้เจอปัญหาดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ต้องขอบคุณ อาจารย์ท่านี้ด้วยซึ่งทำให้ผมได้รู้ข้อมูลและวิธีการส่วนนี้ไปพร้อมๆกัน</span></span><br />
<span style="color: white; font-family: "tahoma"; font-size: small;"><br /></span>
<span class="fullpost" style="font-size: small;">
</span><br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ
<span class="fullpost" style="font-size: small;">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-30343704939116585082014-01-29T07:00:00.000-08:002016-05-13T22:20:49.258-07:00เซฟข้อมูลที่ Desktop แต่ไม่อยู่ที่ Drive C: สวัสดีครับ หลังจากที่ได้โพสต์บทความเกี่ยวกับการแก้ปัญหาขณะลงวินโดว์ 7 และไม่สามารถลงได้จะขึ้นข้อความแจ้งว่า "Windows cannot be installed to disk" ซึ่งทำให้อยากเขัยนประสบการณ์ ออกมาเป็นบทความเพื่อที่จะได้แชร์ให้เพื่อน ๆ หรือบุคคลใดก็ตามที่ผ่านเข้ามาและกำลังประบปัญหาอย่างที่ผมเคยประสบและวิธีการแก้ปัญหา ซึ่งอาจจะมีประดยชน์ไม่มากก็น้อย ก็ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ<br />
<br />
ใครเคยเซฟงานไว้ที่หน้า Dsktop บ้างครับ เชื่อว่าทุกคนเคยกันทุกคนครับ ซึ่งก็ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็แล้วแต่ที่เซฟลง Desktop และแน่นอนเมื่อเซฟไปเรื่อยๆเกิดปัญหาตามมาแน่ ๆ หากเครื่องมีปัญหาอยู่วันดี คืนดี เครื่องคอมเปิดไม่ติด Boot ไม่ขึ้น และอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ใช้คอมพิวเตอร์เปิดใช้งานไม่ได้ จะทำอย่างไรละทีนี้ เมื่อจำเป็นต้องลงวินดดว์ใหม่ ตายแล้วงานอยู่ที่ Desktop ซึ่งก็คือ Drive c: นั่นเอง (สำหรับค่าเริ่มต้น) จำเป็นจะต้องเคลียร์ Drive c: ฉันจะเอางานออกมาได้อย่างไร (ที่จริงสามารถเอาออกได้ "hiren boot" แผ่นโปรแกรมอเนกประสงค์) แต่วันนี้จะมาพูดถึงวิธีการแก้ปัญหาโดยการไม่ให้ข้อมูลไปอยู่ที่ Drive c: ทั้งที่เซฟไว้ทีี่ Desktop<br />
<br />
จะดีไหมหากเราเซฟงานที่ Desktop (ที่ที่เราคุ้นเคย) แต่ให้ข้อมูลไปอยู่ Drive อื่นตามที่เราต้องการ มาดูขั้นตอนกันเลยครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMxwgpT1yDXXbOSBNySgM9Pl06WaH6H24fFOFwpu8SouW0S1QxZxKjsGxQGl5Z3WKFKEtsRj81ae0Hyw711SUSgEcqW8n0_ju7UJEabIYG59prsNrfU6DNTMNsv2CIJAKxGr0WwA38oEs5/s1600/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="222" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMxwgpT1yDXXbOSBNySgM9Pl06WaH6H24fFOFwpu8SouW0S1QxZxKjsGxQGl5Z3WKFKEtsRj81ae0Hyw711SUSgEcqW8n0_ju7UJEabIYG59prsNrfU6DNTMNsv2CIJAKxGr0WwA38oEs5/s1600/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.jpg" width="400" /></a></div>
<br />
1. สร้าง Folder ชื่ออะไรก็ได้ไว้ที่ Drive d: หรือ Drive ไหนก็ได้ตาามที่เราต้องการ ในที่นี้ผมสร้าง Folder ชื่อ Desktop เพื่อความง่ายต่อการเข้าใจและไม่หลงลืม<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitqKQ9-LK0Cx37gD8ot25vqyMxRRtWCFjXE7KPg_AFzCTutM5i1GGVNSuKP8G4hP9gkYQVCvVblUURp-uP5CoowWSpofxeR_i4B2hkSf9p_nf2YPBeTd7uf8jME0qn8aLLzmv7DFEvyjid/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjmTl6Fi9TZWQ_czsVJTHDPwLmwYDdujrf_PRjQlFrGiB6MeaGDEBXN3x2smjC81Uoae5KySyp6YQmKPB6baCr5XA4aMs7lx3Z-Na3l9oQdYKlmFXhV7KcLxshCICLQfwiaBZ86_6IETJQo/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="276" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjmTl6Fi9TZWQ_czsVJTHDPwLmwYDdujrf_PRjQlFrGiB6MeaGDEBXN3x2smjC81Uoae5KySyp6YQmKPB6baCr5XA4aMs7lx3Z-Na3l9oQdYKlmFXhV7KcLxshCICLQfwiaBZ86_6IETJQo/s1600/1.jpg" width="400" /></a> </div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitqKQ9-LK0Cx37gD8ot25vqyMxRRtWCFjXE7KPg_AFzCTutM5i1GGVNSuKP8G4hP9gkYQVCvVblUURp-uP5CoowWSpofxeR_i4B2hkSf9p_nf2YPBeTd7uf8jME0qn8aLLzmv7DFEvyjid/s1600/2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="195" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTioDgDC_0w8ozSVbQ1puhR4cVOAefNB9BsHSLqogiSL2_SAD2tn245AMTs2iB3OCWa_HLGDhRxcTRFCtH8f-bkJkNQ4XOu4Vlc71mhG0-QBqkY4Hu6TbXefSOUWR7yLB10czZ-dwvg24P/s1600/2.jpg" width="400" /> </a></div>
<br />
2. เข้าไปที่ Drive c: ==> User ==> ชื่อ User ของเรา ==> มองหา Folder ชื่อ Desktop<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi3brDbot8RgO2teRgvku3javLGeL1IDxksxr9xH2AMIyOY0xCPb01oYMIsBESZ3lQ-K5pRCFna6ouEqao36VIGdGN70Bkii5vjvNO9OoVVcalBwUyvq49W5Fq45Uqisj63ZUrexKqFn-_t/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi3brDbot8RgO2teRgvku3javLGeL1IDxksxr9xH2AMIyOY0xCPb01oYMIsBESZ3lQ-K5pRCFna6ouEqao36VIGdGN70Bkii5vjvNO9OoVVcalBwUyvq49W5Fq45Uqisj63ZUrexKqFn-_t/s1600/4.jpg" width="365" /></a></div>
<br />
3. คลิ๊กขวาที่ Folder Desktop คลิ๊กที่ Properties ไปที่แทป Location<br />
<br />
4. คลิ๊กขวาที่ Move... และเลือกไปที่ตำแหน่ง Folder ที่เราทำการสร้างตามข้อ 1 <br />
<br />
เพียงเท่านี้ข้อมูลที่เคยลงไปที่ Drive c: ก็จะถูกย้ายไปที่ Drive ที่เราต้องการ ก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับคนที่ชอบเซฟข้อมูลลง Desktop เหมือนผมนะครับ<br />
<br />
@ Klab_en : เล่าความ <br />
<span class="fullpost">
</span>
<!-- Blogger automated replacement: "https://images-blogger-opensocial.googleusercontent.com/gadgets/proxy?url=http%3A%2F%2F3.bp.blogspot.com%2F-MF46-6qNMYA%2FUukU-13oVcI%2FAAAAAAAABhE%2FPpIu2GywRUw%2Fs1600%2F2.jpg&container=blogger&gadget=a&rewriteMime=image%2F*" with "https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitqKQ9-LK0Cx37gD8ot25vqyMxRRtWCFjXE7KPg_AFzCTutM5i1GGVNSuKP8G4hP9gkYQVCvVblUURp-uP5CoowWSpofxeR_i4B2hkSf9p_nf2YPBeTd7uf8jME0qn8aLLzmv7DFEvyjid/s1600/2.jpg" -->Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-74418177961341617602014-01-26T03:09:00.001-08:002016-05-13T22:20:59.806-07:00สวัสดียามเย็น วันนี้จะมาว่าด้วยเรื่อง ลงวินโดว์แล้วเจอข้อความ windows cannot be installed to this disk<div style="text-align: left;">
วันนี้จะขอเล่าประสบการณ์ลงวินโดว์ 7 แล้วเจอข้อความ Windows cannot be installed to this disk ซึ่งเป็นโดว์ที่ลงคือ Windows 7 64 Bit ครับเป็นปัญหาที่เจอสดๆร้อนเลยครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบนะครับว่ามีสิทธิ์เป็นกับทุกวินโดว์หรือเปล่า ก็ทำเอาผมนั่งปวดหัวตั้งแต่บ่ายเลยครับ Format ก็ไม่หาย ลบ Partition ทั้งลูกก็ไม่หายจนต้องมานั่งหาข้อมูลในเน็ต ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่ไม่เคยมีใครเจอนะครับ เพียงแต่ว่าผมเพิ่งเคยเจอกับปัญหานี้ ที่อ่านๆ เจอก็มีหลายคำตอบนะครับ แต่มาจบที่</div>
<br />
<u><i><b>1.บูทจากแผ่นวิน7 จนถึงหน้าเลือก Install now ให้กด Shift+F10 เพื่อเข้าหน้าต่าง CMD</b></i></u><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhXPqq8K9VnTo5OMIOwnTL3JSuGQugnRdG6t4X7qdMarqj0r8PBkj2yQkQhdyGmL-8s_ZYyJvJZurBNzJ7rN_gFqjJN2YYqNWg4bn0eZuop-MH0zmU9yofRK8tM3iUskaKvHZFVKkruybCc/s1600/Windows7-5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhXPqq8K9VnTo5OMIOwnTL3JSuGQugnRdG6t4X7qdMarqj0r8PBkj2yQkQhdyGmL-8s_ZYyJvJZurBNzJ7rN_gFqjJN2YYqNWg4bn0eZuop-MH0zmU9yofRK8tM3iUskaKvHZFVKkruybCc/s320/Windows7-5.jpg" /></a></div>
<span style="font-size: xx-small;">ขอบคุณรูปจาก : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhJ9fPajiuedpDhAqLcklss-0in3zcVzo54BBtfdOBFIvymd2aQlEdqN_qiG88SwPp6k4TX8q1yjn8p682RNqGUjHGS1fhuMJdbeZlyjJjWJVJFRGZP9mI3occsml6p7gM49xUu6GA96bzK/s1600/Windows7-5.jpg</span> <br />
<u><i><br /></i></u>
<u><i><b>2.พิมพ์ diskpart >enter<br />
list disk > enter<br />
select disk 0 > enter(ถ้ามีไดร์ฟเดียว เลือก0 ถ้ามีมากกว่า 1 ไดร์ฟ พิมพ์ 1 2 ตามลำดับเอาครับ)<br />
clean > enter(ถ้าต้องการล้างไดร์ฟ ถ้ามีอีกpartition ให้ข้ามข้อนี้ไป)<br />
create partition primary >enter<br />
exit > enter(เพื่ออก diskpart)<br />
exit > enter(เพื่ออก CMD)<br />
<br />
3.reboot 1 ครั้ง<br />
4.ลงตามปกติ จะพบ 1 Partition ที่สร้างมาไว้แล้ว<br />
<span style="color: red;"><br />
*หมายเหตุ : > enter คือการกดenter 1 ครั้ง</span></b></i></u><br />
<br />
<span style="font-size: xx-small;">ขอบคุณ คำตอบของคุณ Expgamez จากบอร์ด http://www.overclockzone.com</span><br />
<span style="font-size: xx-small;">จากกระทู้</span><br />
<span style="font-size: xx-small;">http://www.overclockzone.com/forums/showthread.php/1336179-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2-windows-cannot-be-installed-to-this-disk-%E0%B9%83%E0%B8%99-windows7-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A </span><br />
<br />
<br />
และวิดีโอของฝรั่ง<br />
<center>
</center>
<center>
</center>
<center>
</center>
<center>
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="//www.youtube.com/embed/DQf9YqbD8WI" width="500"></iframe></center>
<br />
<span style="font-size: xx-small;">วิดีโอจาก : http://www.youtube.com/watch?v=DQf9YqbD8WI</span><br />
<br />
และนี่คือภาพที่ลงแก้ปัญหาได้<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsLpC4Bz5JnXoa1V-qa4_sQvHr8G-KL_TaR4SqISui-cp-cRzad5kPKpLMCQWGi8KdrNUrfToPK4bcmn6V6YT-CasD7rCkzDD7sIEwKbDENU175ECOe-PbOWaKC2fPx4itGbmxOf2m0JAT/s1600/2014-01-26+18.02.24.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsLpC4Bz5JnXoa1V-qa4_sQvHr8G-KL_TaR4SqISui-cp-cRzad5kPKpLMCQWGi8KdrNUrfToPK4bcmn6V6YT-CasD7rCkzDD7sIEwKbDENU175ECOe-PbOWaKC2fPx4itGbmxOf2m0JAT/s1600/2014-01-26+18.02.24.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
ขณะที่กำลังนั่งเขียนบทความนี้ก็กำลังทำการลงวินโดว์ อย่างสบายใจครับ และนี่คืออีกหนึ่งปัญหาที่เพิ่งเคยเจอเลยอยากนำเอามาแนะนำเพื่อนที่กำลังหาคำตอบจากปัญหาที่ผมกำลังประสบอยู่นะครับ Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-51941412965064510442013-11-28T06:45:00.001-08:002016-05-13T22:28:34.613-07:00วิธีเลือกกระเป๋าสตางค์ประจำวันเกิดสำหรับคุณผู้หญิง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://o.lnwfile.com/_/o/_raw/ai/7s/g5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://o.lnwfile.com/_/o/_raw/ai/7s/g5.jpg" /></a></div>
<br />
<a href="http://www.sabuy-shopping.com/category/11/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%8B%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C">กระเป๋าสตางค์</a> ของคุณผู้หญิงนั้นมีให้เลือกมากมายหลายแบบหลายสีสัน แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าสีของกระเป๋าสตางค์นั้นมีผลกับดวงการเงินของคุณผู้หญิง รู้อย่างนี้แล้วเราลองมาดูกันนะคะ ว่าสีกระเป๋าเงินสีไหนเข้ากับคนเกิดวันไหน<br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันอาทิตย์ สำหรับสาวๆที่เกิดในวันนี้ สีกระเป๋าที่ไม่ควรใช้เลยนั่นคือสีฟ้า สีดำ หรือกระเป๋าที่ทำมาจากหนังสัตว์ทะเลจ้า ส่วนสีกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับผู้หญิงที่เกิดในวันนี้ คือสีในโทนสว่างๆ หรือจะเป็นสีน้ำตาล หรือสีเขียวก็ใช้ได้เลยเหมือนกันจ้า<br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันจันทร์ สำหรับสีกระเป๋าสตางค์ที่ไม่ควรใช้สำหรับสาวๆที่เกิดในวันนี้นั่นก็คือ สีแดง หรือกระเป๋าสตางค์ที่ทำมาจากหนังสัตว์ ทั้งสองแบบนี้ คุณสาวๆควรหลีกเลี่ยงไปเลยจ้า ส่วนสีที่คู่ควรกับผู้หญิงที่เกิดวันนี้นั่นคือสี น้ำตาลหรือสีม่วงจ้า ขอบอกเลยเหมาะจริงๆค่ะ<br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันอังคาร สีครีมและสีน้ำตาล 2 สีนี้ไม่แนะนำเลยสำหรับสาวๆที่เกิดในวันนี้ และกระเป่าที่ไม่แนะนำอีกคือกระเป๋าที่ทำมาจากหนังสัตว์ ส่วนสีที่โอเคกับสาวๆที่เกิดในวันนี้ คือสีชมพู สีแสด และสีส้ม สามสี้แนะนำเลยจ้า อีกอย่าง 3 สีนี้คงถูกใจสาวๆอีกหลายคนด้วย<br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันพุธ 2 สีนี้ห้ามเลยสาวๆที่เกิดในวันพุธ นั่นคือสีดำและสีชมพู และกระเป๋าที่ทำจากหนังก็ห้ามเช่นกัน โดยเฉพาะสัตว์ปีก สีที่ถูกโชคกับคุณคือสีเขียวครีม และสีน้ำตาล ขอบอกเลยเจ้าค๊า<br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันพฤหัสบดี คุณผู้หญิงที่กิดวันพฤหัสบดี มีสีที่ห้ามสีเดียวคือสีดำ และขนาดของกระเป๋าไม่ควรใหญ่จนเกินไปด้วยน๊า และควรเลือกประเภทที่มีช่องใส่พอประมาณ ส่วนสีที่โอเคกับคนเกิดวันนี้คือสีส้ม<br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันศุกร์ กระเป๋าสตางค์ สีดำหรือสีโทนมืด ไม่สดใส เป็นสีต้องห้ามสำหรับผู้หญิงที่เกิดในวันนี้ไม่ควรใช้กระเป๋าที่ดูแปลกตาจนเกินไป สีที่ถูกโชคกับคุณคือสีฟ้าและสีชมพูจ้า <br />
<br />
ผู้หญิง ที่เกิดในวันเสาร์ แนะนำว่าคุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ สีเขียวหรือสีน้ำตาล และควรเลือกแบบที่ไม่เก่าเร็ว เพราะว่าคนที่เกิดวันเสาร์ หากใช้กระเป๋าสตางค์ใบที่ดูเก่าๆจะทำให้ไม่มีโชคลาภ ไม่เชื่อก็ต้องลองกันล่ะงานนี้ และสีที่เหมาะกับคุณคือสีฟ้าหรือสีม่วง<br />
จะยังไง เชื่อไม่เชื่อก็คิดเอาละกันนะค่ะ สุดท้ายนี้ น่าลองน๊อ ไม่เสียหาย<br />
<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-47290700699391476792013-11-26T16:40:00.001-08:002016-05-13T22:30:14.980-07:00แม่หมา&ลูกแมว<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="344" src="//www.youtube.com/embed/8dOSN4Tco-I" width="459"></iframe><br />
<br />
<span class="fullpost"></span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-51824530028388520102013-11-26T16:36:00.001-08:002016-05-13T22:38:17.715-07:00เสื้อผ้าแฟชั่น update<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="344" src="//www.youtube.com/embed/ohiaJ8ZEoAc" width="459"></iframe><br />
<br />
<span class="fullpost"></span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-83734447698387167162013-11-22T20:34:00.004-08:002016-05-13T22:38:11.539-07:00แฟชั่นมาแปลกใรยุคนี้ต้อง ของ เลดี้ กาก้า<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://images.thaiza.com/194/194_201311191630451..jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://images.thaiza.com/194/194_201311191630451..jpg" height="202" width="320" /></a></div>
<br />
<br />
เชื่อว่า<a href="http://www.sabuy-shopping.com/">แฟชั่น</a> นิสต้าทั้งหลาย คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก "เลดี้ กาก้า" (Lady Gaga) ศิลปินเพลงป็อบชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลีผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยสไตล์การแต่งองค์ทรงเครื่องของเธอ แต่ละชุด บวกด้วยความแรงผสมความสวยแปลกแหวกแนว ทำให้ชื่อเสียงของ "เลดี้ กาก้า" เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก<br />
<br />
นิตยสารไทม์ส มีการจัดลำดับให้ "เลดี้ กาก้า" อยู่ในรายชื่อไทม์ส 100 ที่รวบรวมบุคคลทรงอิทธิพลต่อโลกประจำ ค.ศ. 2010 และใน 100 อันดับ บุคคลที่มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลต่อโลก ส่วนนิตยสารฟอบส์ ได้มีการจัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับที่ 7 ของผู้หญิงทรงอำนาจที่สุดในโลกประจำ ค.ศ. 2010<br />
<br />
เรื่องความแหวกแนวของ<a href="http://www.sabuy-shopping.com/">แฟชั่น</a> การแต่งกาย แรงสุดฤทธิ์ ชนะขาดลอยอยู่แล้วสำหรับสาวคนนี้ เรียกว่าหลายคนคงจะคุ้นตากันดีอยู่แล้ว ถ้าแต่งตัว ไม่แปลกไม่ใช่ กาก้า แน่นอน<br />
<br />
<a href="http://www.sabuy-shopping.com/">แฟชั่น</a> เลดี้ กาก้า<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-76687651382687238572013-11-20T05:46:00.001-08:002016-05-13T22:38:04.999-07:00แนวทางเลือก ครีมกันแดด ให้เหมาะกับผิว<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://thaiinnomart.com/image/data/sunprotect.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://thaiinnomart.com/image/data/sunprotect.jpg" height="212" width="320" /></a></div>
<br />
<br />
ความจำเป็นในการป้องกัน UVA และ UVB<br />
เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UVA) สามารถส่องผ่านทะลวงถึงชั้นหนังแท้ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงของเส้นใยอีลาสติน สีผิวและเส้นเลือดได้ก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ริ้วรอยเหี่ยวย่น ส่วน UVB เป็นตัวการทำให้ผิวหนังไหม้และเกิดรอยร่างดำ มนุษย์มีโอกาสได้รับ UVA มากกว่า UVB เนื่องจาก UVA มีปริมาณคอนข้างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล นอกจากนี้ UVA ยังสามารถส่องผ่านผ่านกระจกและเมฆได้<br />
ฉะนั้นจึงควรเลือก ครีมกันแดด ที่สามารถกันทั้ง UVA และ UVB ซึ่ง ครีมกันแดด ที่มีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้เฉพาะ UVB ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อ ครีมกันแดด ควรจะอ่านฉลากข้างหลอดให้ดีเสียก่อน<br />
<br />
SPF คืออะไร<br />
SPF มาจากคำว่า sun protection factor คือหน่วยวัดประสิทธิภาพของ ครีมกันแดด แต่ละชนิดที่สามารถป้องกันผิวไหม้แดงตามปกติเมื่อคนผิวขาวอยู่กลางอดจ้านานประมาณ 15 นาที ผิวหนังจะมีอาการไหม้แดง ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 20 หมายถึง ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันแสงแดดได้นาน 300 นาที หรือ 5 ชั่วโมง<br />
<br />
วิถีทางเลือกและใช้ครีมกันแดด<br />
1. เลือกสรรชนิดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสีอัลตราไวโอเลต (UVA) และ (UVB)<br />
2. มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 15<br />
3. วิถีทางการทา ควรให้มีความหนาสม่ำเสมอและทาทั่วถึงทั้งใบหน้าประมาณขนาดเท่า 1 เหรียญบาท หรือ 5-6 เม็ด ถั่วเขียว สำหรับบริเวณใบหน้า<br />
4. ทาทิ้งไว้ 15-20 นาทีก่อนออกแดด เพื่อให้ยาเกาะตัวผิวหนังชั้นบนและทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง<br />
5. ควรคัดเลือก ครีมกันแดด ที่มีฤทธิ์กันน้ำ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง<br />
อยากผิวสวยอย่าลืมป้องกันแสงแดดโดยการหลีกเลี่ยง กางร่ม สวมหมวก สวมเสื้อผ้าปกคลุม ร่วมกับใช้ยากันแดดที่มีคุณภาพ<br />
======================================================<br />
<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-20112781081776244552013-11-19T05:49:00.002-08:002016-05-13T22:37:58.073-07:00Fashion มั่นอกมั่นใจด้วยแฟชั่นเสื้อกล้ามFashion มั่นอกมั่นใจด้วย<a href="http://www.sabuy-shopping.com/">แฟชั่น</a>เสื้อกล้าม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://images.thaiza.com/195/195_201309191402142..jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://images.thaiza.com/195/195_201309191402142..jpg" height="320" width="320" /></a></div>
<br />
<br />
คงไม่มีอิสตรี คนไหนไม่เคยใส่<a href="http://sabuyshopping.wordpress.com/2013/11/19/fashion-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1/">แฟชั่น</a>เสื้อกล้าม และ<a href="http://www.thisiswomen.com/forum/index.php/topic,8521.0.html">แฟชั่น</a>เสื้อกล้ามก็มีออกมามากเอาใจสาวมั่นทีเดียว และเพื่อเอาใจวัยแรกรุ่นที่ไม่ชอบใส่<a href="http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sabuyshopping&month=11-2013&date=11&group=1&gblog=43">แฟชั่น</a>เสื้อผ้ารุ่มร่าม วันนี้เรานำเสนอ<a href="http://klab-en.blogspot.com/">แฟชั่น</a>เสื้อกล้าม<a href="http://iarticlesguru.com/fashion-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88/">แฟชั่น</a>หลากหลายมาให้สาวๆ ใส่เดินห้างหรือจะไปเที่ยวไหนก็ได้โดยไม่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องให้เว่อร์เลย <br />
======================================================<br />
<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-60451829482194578392013-11-08T19:14:00.002-08:002016-05-13T22:37:33.092-07:00 4 makeup ที่คุณสาวๆ ไม่ควรใช้ 4 เมกอัพที่คุณไม่ควรใช้<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://admin.ladytips.com/Images/News/images/2011/08/09/05/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9F.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://admin.ladytips.com/Images/News/images/2011/08/09/05/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9F.jpg" height="320" width="214" /></a></div>
<br />
<br />
บางโอกาสการแต่งหน้า ก็ไม่ได้ทำให้เราดูสวยเสมอไป บางครั้งมันจะทำให้คุณดูโทรมมากกว่าสวย หากการแต่งหน้า แบบผิดๆ<br />
<br />
1. แป้งเนื้อแมตต์มากๆ ผิวที่ดูงามเป็นธรรมชาตินั้นจะต้องดูเรืองรองนิดๆ ฉะนั้น เลือกใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงแบบที่จะไม่เข้าไปฝังตัวอยู่ในรูขุมขน และเน้นเฉพาะบริเวณที-โซนก็พอ<br />
2. โทนสีตาม<a href="http://www.sabuy-shopping.com/">แฟชั่น</a> (ที่ไม่ได้ทำให้คุณดูสวยขึ้น) ความสวยที่แท้จริงควรจะมาจากตัวตนของคุณเอง แล้วใช้เครื่องสำอางเป็นตัวช่วย ฉะนั้น ถ้าคุณรู้สึกว่าอายแชโดว์โทนสีฟ้าสดของซีซั่นนี้ดูไม่เหมาะกับคุณเลย ก็ไม่ต้องไปฝืนทำ<br />
3. รองพื้นที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว คุณรู้ใช่มั้ยว่าสภาพผิวของคนเรามักจะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ ฉะนั้น อย่าเอาครีมรองพื้นที่เหมาะจะใช้ในหน้าหนาว…มาใช้ในสภาพอากาศร้อนๆ นอกจากนี้ก็ไม่ควรใช้ในปริมาณที่เยอะเกินไปด้วย<br />
4. เฉดสีแวววาวเกินเหตุ มองหาผลิตภัณฑ์แบบที่เรืองรองนิดๆ หรือวิบวับหน่อยๆ จะดีกว่า แป้งทาหน้าหรือบลัชออนแบบแวววาวจะดูไม่เป็นธรรมชาติเลยเมื่ออยู่ใต้แสงธรรมชาติ แถมยังทำให้หน้าดูเหมือนมันเยิ้มตอนถ่ายรูปด้วย<br />
======================================================<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-15518403194954078702013-11-07T16:55:00.001-08:002016-05-13T22:37:27.056-07:004 item เปลี่ยนแปลงคุณให้กลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นสุดฮิต4 item เปลี่ยนแปลงคุณให้กลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นสุดฮิต<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://haarai.com/promoteweb/picpost/20090327-000124001502991.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://haarai.com/promoteweb/picpost/20090327-000124001502991.jpg" height="320" width="201" /></a></div>
<br />
<br />
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะลุกมา make over ตัวเองให้เป็นสาวเจ้าแม่<a href="http://www.sabuy-shopping.com/">แฟชั่น</a> แล้วจ้าไปลองเปิดตู้กันดูเร็วว่าเราสามารถจับเอา item อะไรเก๋ๆมาทำให้เป็นเจ้าแม่แฟชั่น ได้ไหม<br />
<br />
หมวก หมวกใบเดียวสามารถเพิ่มความชิคและความเพลิดเพลินในการแต่งตัวได้อีกเป็นกองสำหรับสาวคนไหนที่หัดใส่หมวกครั้งแรกลองเริ่มที่หมวกสีพื้นเรียบๆ ปีกกว้าง เพราะสามารถใส่ได้สวยกับทุกรูปหน้า ไม่ดับแน่นอน<br />
<br />
แว่นตากันแดด เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเจ้าแม่แฟชั่นมักขาดไม่ได้กับแว่นกันแดด แว่นกันแดดสามารถอัพลุคจากสาวปกติเป็นสาวเปรี้ยวสุดมั่นได้ แต่ต้องเลือกดีๆนะจ๊ะ เพราะแว่นแต่ละแบบก็เข้ากับรูปหน้าไม่เหมือนกันควรเลือกซื้อแว่นจากการลองใส่ด้วยตัวเองเท่านั้น<br />
<br />
แจ๊คเก็ต อยากเท่ห์ไม่เหมือนใครต้องมีไว้ในครอบครองจะแฟชั่นสุดๆต้องแจ๊คเก็ตหนังที่ไม่ว่าจะยุคไหนจับขึ้นมาก็เป็นเจ้าแม่แฟชั่นได้ไม่ยาก ถ้ากลัวจะล้ำเกินใครลดระดับความร็อคลงเป็นแจ๊คเก็ตหนังสีน้ำตาลก็ยังได้<br />
<br />
<br />
ต่างหู ต้องเป็นต่างหูขนาดจัมโบ้เท่านั้นหรือไม่ต้องใหญ่มากแต่เป็นรูปร่างที่เก๋ เช่น ต่างหูรูปสายฟ้า ต่างหูรูปปาก ต่างหูจะสร้างความโดดเด่นให้ใบหน้าดูเด่นชัดมากขึ้น เจ้าแม่แฟชั่นหลายคนยังให้ต่างหูเป็น must have items เลยนะสาวๆ<br />
<br />
แค่สาวๆจับ item เก๋ๆมาใส่ก็จะทำให้การแต่งตัวสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ตำแหน่งเจ้าแม่แฟชั่น คนใหม่จะหนีไปไหนได้<br />
======================================================<br />
<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2273304509286554875.post-67083192541461871652013-11-07T05:51:00.000-08:002016-05-13T22:37:20.237-07:00พฤติกรรมกินยอดแย่ 7 ประการ ที่พาแก่เร็ว<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.hosttrendy.com/wp-content/uploads/2012/06/old-lady.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://www.hosttrendy.com/wp-content/uploads/2012/06/old-lady.png" /></a></div>
สุขภาพอนามัย จะดีหรือไม่อยู่ที่ “ปาก” ของเราเป็นหลัก ด้วยการกินนี่เองที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์รักษาโรคได้หรือทำให้เจ็บป่วยได้ก็มาจากการกินเหมือนกัน กินดีได้ดี กินร้ายได้ร้าย<br />
<br />
ซึ่งการกินที่ควรเลี่ยงให้น้อยที่สุดหรือปลอดไปเลยมีอยู่ 7 ประการดังนี้<br />
<br />
1. บริโภคหวาน ไม่ได้หมายถึงห้ามเด็ดขาดเลยครับเพียงแค่ขอให้ “อ่อนหวาน” ลงเพื่อจะได้คงสุขภาพที่ดีไว้นานๆ ทั้งอาหาร ขนมหวานและเครื่องดื่มครับ แค่นี้รอบพุงก็ไม่เกิดอาการ “ปลิ้น” แล้ว<br />
<br />
2. กินไม่เคี้ยว สังคมยุคใหม่ต้องรีบกินจึงทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บไข้เจ็บตามมาจากอาหารที่ “เคี้ยวน้อย” ขอให้ท่านที่รักยอมเสียเวลาสักนิด ตั้งใจเคี้ยวสักคำละ 10 ครั้งจนติดเป็นนิสัยจะทำให้ได้สุขภาพดีทั้งสมองและทางเดินอาหาร<br />
<br />
3. กินดึก การกินมากกว่า 3 มื้อหรือเพิ่มมื้อพิเศษยามค่ำคืนเข้ามาจะพาให้สุขภาพ แย่ลงเร็วครับ เพราะร่างกายถูกดีไซน์มาให้หยุดพักตอนกลางคืน คนที่กินดึกจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน นอนไม่หลับ กรดไหลย้อนและอีกมาก การกินดึกจึงเป็นบ่อนทำลายสุขภาพอย่างเร็วยิ่งทางหนึ่ง<br />
<br />
4. กินแล้วนิ่ง กินแล้วไม่ขยับเข้าสู่ภาวะจำศีลหรือนั่งแปะอยู่แต่กับเก้าอี้ทำงานหลังอาหารมื้อใหญ่ล้วนเป็นภัยต่อสุขภาพ อย่างร้ายแรงครับ โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจจะถามหา ขอให้หาทางออกกำลังกายหรือขยับตัวบ้างสร้างให้ติดเป็นนิสัยจะดีที่สุด<br />
<br />
5. กินอิ่มแล้วอิ่มอีก การกินอาหารด้วยความ “อยาก” มากกว่า “หิว” หรือการกินบุฟเฟ่ต์ที่ต้องพยายามกินทรมานมากกว่าอร่อยบ่อยๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยรวม นอกจากทำให้ร่างกายติดนิสัยการกินดุแล้วยังทำให้ได้รับแคลอรีเกินความต้องการต่อวันอย่างน่าตกใจ<br />
<br />
6. กินซ้ำ วิถีชีวิตคนทำงานมักเกิดอาการกินซ้ำได้บ่อยครับ เป็นมนุษย์กะเพราไก่ มนุษย์ข้าวไข่เจียวหรือมนุษย์บะหมี่ซอง กินเข้าไปก็ยิ่งไปซ้ำเติมสุขภาพให้ได้รับแต่สารอาหารซ้ำๆ ลองนึกดูว่าถ้ามีพิษก็จะได้พิษสะสมซ้ำๆ เช่นกัน<br />
<br />
7. ปรุงก่อนกิน ท่านที่ชอบเติม เปรี้ยว เค็ม หวานฯลฯ เกิดอาการ “ติดปรุง” ขอให้ค่อยๆ เปลี่ยนดีกว่าครับ เพราะวันหนึ่งคนเราไม่ควรได้น้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา ส่วนน้ำปลานั้นก็ไม่น่าเกิน 3 ช้อนชาครับ ทั้งนี้คือรวมทั้งที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆ แล้วด้วย ดังนั้นจะเห็นว่ายิ่งปรุงเพิ่มยิ่งเสี่ยง<br />
<br />
<br />
ทั้ง 7 ประการเป็นการกินที่ควรมีให้น้อยที่สุดหรือถ้าเลี่ยงได้ยิ่งดี เพราะอวัยวะในตัวเราหลายอย่างถ้าเสียไปเพราะการกินแล้ว “ซ่อมไม่ได้” และ “ไม่มีอะไหล่เปลี่ยน” อย่างสมอง กระเพาะอาหาร ตับหรือไตครับที่ใช้ของใครก็ไม่เหมือนของตัวเอง<br />
======================================================<br />
<br />
<span class="fullpost">
</span>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/17117648369794115708noreply@blogger.com